Wednesday, July 28, 2010

กลศาสตร์กับการป้อนนม

Pongtorn Thavorn การป้อนนมเด็กด้วยถ้วย เป็นการbalanceระหว่างแรงตึงผิวของนมในถ้วยกับแรงดูดของปากเด็ก
ถ้าไม่เช่นนั้นจะเกิดการ Over flow หรือ loss suction ได้

23 ชั่วโมงที่แล้ว · ·

  • ถูกใจ Voratai Raghareutai
    • Pongtorn Thavorn แรงตึงผิวในที่นี้เกิดจากมุมเอียงของถ้วยป้อน ถ้าเอียงมาก(วัดจากแนวvertical)ทำให้ความยาวผิวขาดลดลง ขณะที่สัมประสิทธิ์แรงตึงคงที่ จะทำให้อัตราการไหลของนมออกจากถ้วยเร็วขึ้น
      23 ชั่วโมงที่แล้ว · · 1 คนกำลังโหลด... ·
    • Pongtorn Thavorn จุดวิกฤติอยู่ที่มุมที่เอียงจนกระทั่งนมสัมผัสกับริมฝีปาก ซึ่งต้องสัมพันธ์กับแรงดูดจากปากพอดี
      23 ชั่วโมงที่แล้ว · · 1 คนกำลังโหลด... ·
    • Pongthep Prasittilapo แปลว่าเลี้ยงลูกเองจริงๆ
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Phatsaphan Charnwasununth คิดได้เนอะ
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Pongtorn Thavorn ป้อนนมเด็กเครียดนะว๊อย
      ต่างกับให้เด็กป้อน..
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Panthep Pengniti เลี้ยงลูกจนเพี้ยน
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · · 1 คนกำลังโหลด... ·
    • Phatsaphan Charnwasununth ป่ะ เดี๋ยวให้เสี่ยพงพาไป
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Pongthep Prasittilapo ไปไหนไปด้วยนะแม๊ก ฮ่าๆ
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Fon Tirayaudomsuk Oh! What an interesting topic this is.
      @Art : I bet that your son gonna be a good engineer like his Dad
      @Pong and Max : kind of erotic discussion na nia
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Pongthep Prasittilapo Kvillageศุกร์นี้ไงเจ๊ฝนเจ้าภาพหนิ
      22 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Panpipat Sang เนิ้ดได้อีก ป้อนนมลูกต้องคิดถึงหลักกลศาสตร์ด้วยเรอะ???
      21 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Manaschanok Chuenchom คิดดูสิ เด็กเพิ่งเกิดไม่กี่ชม.ก็ต้องกินนมจากแก้วแล้ว...ลูกคนโตกุยังกินไม่เป็นเลย...คนเล็กกินเอ๊ากินเอา..ลำบากชิบ แต่ต้องจำทน
      13 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Osh Piyanai สบายเลยดิอาร์ท ช่วงนี้เลยได้ประหยัดการซื้อนมกล่องกินเองชั่วคราว
      12 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Jintasit Hear เอ่อ สงสัยถ้าคุณพ่อจบบัญชีคงต้องคิดว่า .. การป้อนนมเด็กด้วยถ้วย ประกอบด้วยต้นทุน ค่านม และค่าถ้วย เมื่อเปรียบเทียบกับการให้เด็กป้อน ต้นทุน จะมีค่าเด็กป้อนเพิ่มขึ้นมา เป็นค่าแรงงานทางตรงส่วนเพิ่ม
      ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
    • Pongtorn Thavorn ตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วก็ต้องดูว่า marginal utilityของนมที่ป้อนสูงสุดหรือยัง ซึ่งตามเท่าที่สังเกตจะพบว่า ปริมาณ 2 ออนซ์เป็นความพึงพอใจสูงสุดของลูกซึ่งถ้าป้อนมากกว่านี้จะเป็นปรากฏการณ์ความพึงพอใจย้อนกลับ ความพึงพอใจลดลงเมื่อนมมากขึ้น นมที่ป้อนเกินความต้องการ ที่สุดก็อ๊อกออกมา
      ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว · · 2 คนทั้ง Panthep Pengniti และ Jintasit Hear ถูกใจสิ่งนี้ ·

Thursday, May 20, 2010

เพลงนี้มอบให้แก่ความแตกแยกในวันนี้



Black Eyed Peas

Where Is The Love?


What's wrong with the world, mama
People livin' like they ain't got no mamas
I think the whole world addicted to the drama
Only attracted to things that'll bring you trauma
Overseas, yeah, we try to stop terrorism
But we still got terrorists here livin'
In the USA, the big CIA
The Bloods and The Crips and the KKK
But if you only have love for your own race
Then you only leave space to discriminate
And to discriminate only generates hate
And when you hate then you're bound to get irate, yeah
Madness is what you demonstrate
And that's exactly how anger works and operates
Man, you gotta have love just to set it straight
Take control of your mind and meditate
Let your soul gravitate to the love, y'all, y'all

People killin', people dyin'
Children hurt and you hear them cryin'
Can you practice what you preach
And would you turn the other cheek

Father, Father, Father help us
Send us some guidance from above
'Cause people got me, got me questionin'
Where is the love (Love)

Where is the love (The love)
Where is the love (The love)
Where is the love
The love, the love

It just ain't the same, always unchanged
New days are strange, is the world insane
If love and peace is so strong
Why are there pieces of love that don't belong
Nations droppin' bombs
Chemical gasses fillin' lungs of little ones
With ongoin' sufferin' as the youth die young
So ask yourself is the lovin' really gone
So I could ask myself really what is goin' wrong
In this world that we livin' in people keep on givin'
in
Makin' wrong decisions, only visions of them dividends
Not respectin' each other, deny thy brother
A war is goin' on but the reason's undercover
The truth is kept secret, it's swept under the rug
If you never know truth then you never know love
Where's the love, y'all, come on (I don't know)
Where's the truth, y'all, come on (I don't know)
Where's the love, y'all

People killin', people dyin'
Children hurt and you hear them cryin'
Can you practice what you preach
And would you turn the other cheek

Father, Father, Father help us
Send us some guidance from above
'Cause people got me, got me questionin'
Where is the love (Love)

Where is the love (The love)
Where is the love (The love)
Where is the love
The love, the love

I feel the weight of the world on my shoulder
As I'm gettin' older, y'all, people gets colder
Most of us only care about money makin'
Selfishness got us followin' our wrong direction
Wrong information always shown by the media
Negative images is the main criteria
Infecting the young minds faster than bacteria
Kids wanna act like what they see in the cinema
Yo', whatever happened to the values of humanity
Whatever happened to the fairness in equality
Instead in spreading love we spreading animosity
Lack of understanding, leading lives away from unity
That's the reason why sometimes I'm feelin' under
That's the reason why sometimes I'm feelin' down
There's no wonder why sometimes I'm feelin' under
Gotta keep my faith alive till love is found

People killin', people dyin'
Children hurt and you hear them cryin'
Can you practice what you preach
And would you turn the other cheek

Father, Father, Father help us
Send us some guidance from above
'Cause people got me, got me questionin'
Where is the love (Love)

Where is the love (The love)
Where is the love (The love)
Where is the love (The love)

Where is the love (The love)
Where is the love (The love)
Where is the love (The love)

http://www.youtube.com/watch?v=WpYeekQkAdc

Sunday, May 16, 2010

สิ่งที่ควรทำ VS สิ่งที่อยากทำ

ปกติผมเป็นคนที่คิดค่อนข้างตรงไปตรงมา(มั้ง) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนมาปรึกษาเรื่องส่วนตัว ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนถึงชอบปรึกษาเรื่องส่วนตัวกับผม ผมจึงรู้เรื่องส่วนตัวของชาวบ้านไม่น้อย เรื่องส่วนตัวนั้นมีทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องงาน เรื่องเพื่อน แม้กระทั่งเรืื่่องความรัก อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อเราอยู่นอกกรอบของอารมณ์ของคนที่มีปัญหา ไม่ได้เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น เรามักจะอยู่บนเหตุและผล และบนข้อเท็จจริงที่เราได้รับจากคนที่มาปรึกษา ผมก็จะบอกถึงสิ่งที่ควรทำไป ซึ่งผมคิดว่าคำตอบของผม ก็ดีที่สุดเท่าีคิดได้ เน้นว่าเท่าที่ผมคิดได้

แต่เรื่องส่วนตัวกลับตรงกันข้าม ผมค่อนข้างจะมีปัญหากับการจัดลำดับความสำคัญของงานที่่ต้องทำ เอางานที่อยากทำมาทำก่อนทุกที ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ตามหลัก Eat that frog! ผมมักจะเอางานที่ต้องทำไว้ทีหลัง พักผ่อนก่อน เล่นเกมส์คอมก่อน เล่นกีฬาก่อน จึงไม่ค่อยแปลกที่เวลาใกล้สอบ หรือใกล้ส่งงาน ผมมักจะค่อนข้างยุ่ง ส่วนตัวคิดว่าเนื่องจากเป็นการใช้อารมณ์ความรู้สึกนำหน้า จึงทำให้ผมจัดการกับตัวเองไม่ได้ดีเท่าไีร


แล้วผมก็มองย้อนกลับไปหาคนที่เค้ามาขอคำแนะนำจากเรา หลายครั้งที่คำแนะนำของผมนั้นไม่ค่อยถูกใจคนอื่นเท่าไหร่ บางครั้งถึงกับบอกว่า "ถ้าไม่เชื่อทีหลังก็ไม่ต้องมาถาม" ด้วยความรำคาญ นั่นก็เพราะผมไม่เข้าใจหรือไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนนั้นเท่าไหร่ แต่ผมมองข้ามไปถึงผลที่อยากให้เกิดขึ้นมากกว่า ซึ่งก็เป็นผลอันเดียวกับที่คนมาปรึกษาต้องการ
จนถึงชั่วโมงนี้ผมยังไม่สามารถจัดการอารมณ์บางอย่างที่อยู่ในเหตุผลในการตัดสินใจ ไม่ใช่ว่าจะตามอารมณ์ทุกอย่าง แต่มีบางอารมณ์ที่เป็นนิสัยและสันดานส่วนตัวลึกๆที่มันแก้ไม่หาย ทำให้บางทีชีวิตก็ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ทั้งๆที่ถ้าทำตัดสินใจปกติแบบชาวโลกก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

เคยมีอาจารย์เศรษฐศาสตร์บอกว่า พวกวิศวะหัวสี่เหลี่ยมไม่ค่อยมีศิลปะ ผมค่อนข้างเห็นด้วยเพราะเมื่อผมออกความเห็นมักจะตรงๆทื่อๆ แต่วิศวะก็มีหัวใจนะครับอาจารย์ ผมก็เลยทำตามใจอยู่บ่อยๆ

ในความวุ่นวายหยุดคิดซักนิด

ผมได้มีโอกาสได้รับการบรรยายจากปรมาจารย์ระดับประเทศท่านหนึ่งในสายการวางแผนกลยุทธ์ โดยส่วนตัวรู้สึกประทับใจมาก เพราะเวลาเรียนผมจะเดาทางเื่พื่อตอบคำถามท่าน ท่านก็มักจะเปิดช่องให้ตัวของท่านมี่ทางออกเสมอ คำถามพื้นๆที่เค้าถามลองเชิงไม่มีโอกาสได้กินท่าน ท่านจะมีคำคอบที่ไม่ธรรมดามาตอบ แล้วก็พร้อมกับย้ำเตือนลูกศิษย์ถึงเวลามองปัญหาให้มองให้ครบทุกด้าน วิชาที่ผมเรียนคือวิชาวางแผนแบบกลยุทธ์ครับ

ฟังชื่อดูออกจะน่ากลัวว่าเป็นสายทหาร แต่เปล่าเลยมันเป็นทักษะพื้นฐานที่่มนุษย์ควรจะมีไว้เพื่อหาทางออกและความสำเร็จให้กับตัวเอง สมัยก่อนเราจะได้ยินคำว่ากลยุทธ์เมื่อพูดถึงทางด้านการทหาร แต่ปัจจุบันนี้นักการตลาดก็ต้องวางกลยุทธ์เพื่อดึงลูกค้าเข้าหาสินค้าของตัวเอง แม้กระทั่งบางบ้านหัวหน้าครอบครัวอาจจะวางกลยุทธ์ให้กับสมาชิกในครอบครัวโดยที่เค้าไม่รู้ตัว ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากตัดถนนตรงมาที่บ้านเรา มันย่อมดีกว่าเราต้องเดินบุกป่าฝ่าดงเข้าบ้านเราแน่นอน

การวางแผนกลยุทธ์นั้นเท่าที่จำได้ลางๆเป็นการคิดแบบองค์รวม(Holistic thinking) โดยใช้การคิดอย่างเป็นระบบ (Systematic thinking) ซึ่งก็คือการคิดอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อที่จะได้ความเป็นองค์รวมอย่างครบถ้วน ซึ่งส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญคือ SWOT

ผมเคยได้ลองทำSWOTในกลุ่มกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับการตลาด วันนั้นมีรุ่นพี่ท่านหนึ่งคนข้างเก่งมาร่วมด้วย ปกติที่พูดถึงSWOTคนมักจะเริ่มกันตรงๆที่S-W-O-Tเลย แต่พี่คนนี้เค้ามีที่มาของของแต่ละตัวชัดเจน(จำไม่ได้แล้ว) ซึ่งผมก็อึ้งไปชั่วขณะว่าเราเรียนมาด้วยกันทำไมพวกผมไม่รู้นะ หรือว่าตอนนั้นเราไปเข้าห้องน้ำ หรือว่ามันแต่คิดถึงเรื่องอื่น นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการมีsystematic thinking

แต่ในวันนี้ที่อยากพูดถึงจริงๆเป็นแค่ส่วนย่อยในการวางแผนกลยุทธ์ ซึ่งก็คือการทำSWOT (อยากรู้ว่ามันคืออะไร ไปหาในgoogle ได้เยอะแยะครับ) เพราะผมเริ่มสังเกตเห็นมาตรการณ์ของทหารที่เข้ามาจัดการกับผู้ชุมนุมที่ค่อนข้างนุ่มนวลแต่เด็ดขาด ก็คือการตัดสาธารณูปโภค น้ำ ไฟฟ้า และ โทรศัพท์ รวมทั้งอาหารและน้ำ ผมเองไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน จึงไม่รู้ว่ามันเหมาะสมหรือไม่ ที่ทำแบบนี้ แต่ผมรู้ว่าผู้ชุมนุมมีทางเลือกว่าจะชุมนุมหรืออยู่ต่อ

ผมเริ่มรู้สึกถึงการมีระบบความคิดของรัฐบาลที่จะเข้าสลายการชุมนุม ที่ใช้กลยุทธ์ เดิมเริ่มจากการวิเคราะห์SWOT ของผู้ชุมนุม รวมทั้งตัวรัฐบาลเอง ไม่ใช่แค่เพียงว่าใช้ทรัพยากรและอำนาจที่ตนเองมีอย่งเต็มที่เท่านั้น

ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ท่านนี้ว่าจริงๆแล้วการเขียนSWOTนั้นไม่ง่ายเลย ที่นักเรียนเขียนๆกับถูกๆผิดๆไม่ซับซ้อน แล้วก็ได้Aนั้นยังไม่ยากเท่าไหร่ แต่การเขียนSWOTเพื่อใช้ในธุรกิจ ซึ่งต้องถูกต้องและแม่นยำนั้น ยากมากเพราะจะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำและทันสมัย เพราะในชิวิตจริงจะผิดพลาดไม่ได้ เพราะคือเงินจริง เวลาจริง ทุกอย่างเป็นของจริง ซึ่งวันนี้ทำให้ผมย้อนคิดว่าSWOTที่รัฐบาลวาดไว้ระหว่างของตัวเองและของผู้ชุมนุมนั้นมันคล้ายๆจะออกมาดี แต่ผมก็ห่วงว่ามันถูกต้องแม่นยำแค่ไหน

สุดท้ายSWOTก็เหมือนอาวุธอย่างหนึ่ง มันไม่รู้ว่าอยู่ในมือใคร ใครกำลังใช้มัน แต่มันจะมีประโยชน์ที่สุดกับคนที่คิดถึงมันครับ

Thursday, May 13, 2010

ของเล่น ความฝัน เด็กน้อย


ผมเชื่อว่าทุกคนย่อมมีความฝันตอนเด็กๆด้วยกันทั้งนั้น โดยความฝันนั้นก็มีทั้งสมหวังและผิดหวัง ความฝันทั้งสองนั้นมักจะติดอยู่ในความทรงจำเสมอถ้าเราเคยรู้สึกอยากไ้ด้มากๆ ถ้าสมหวังก็ตะนึกถึงอย่างมีความสุข ถ้าผิดหวังก็คงนึกถึงมันอย่าเหงาๆ แล้วก็อาจจะมองถึงทุกวันนั้นว่าถ้ามีโอกาสก็จะต้องทำความฝันนั้นให้สำเร็จให้ได้

ของเล่นในวัยเด็กของผมก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเด็กผู้ชายทั่วไป ก็คือ หุ่นยนต์ของเล่น รถของเล่น ปืนของเล่น บลา บลา บลา... แล้วก็มีของเล่นบางอย่างที่ผมก็ได้ซื้อเมื่อผมโตขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีเงินเดือนทำให้อำนาจในการจับจ่ายมากขึ้นมหาศาลเมื่อเทียบกับเด็กน้อยขอตังค์แม่

ด้วยตรรกะแบบนี้ จึงเป็นโอกาสให้นักการตลาดได้นำความฝันของวัยรุ่นที่ไม่มีกำลังซื้อ เอาของพวกนั้นมา่ขายเมื่อลูกค้ากลุ่มนี้มีเงินถุงเงินถัง เช่นวงนูโว ไมโคร และอะไรอีกเยอะแยะ

ปัจจุบันผมก็ยังตามเก็บitemที่เคยฝันไว้ตอนเด็กๆ เอามาให้ระลึกถึงความเป็นเด็ก ผมซื้อมีดพับเพราะตอนเด็กๆอยากซื้อ เอามาหัดควงเล่น ปัจจุบันทิ้งไว้ในห้องน้ำ ผมซื้อกล้องถ่ายรูปเพราะตอนเด็กๆเห็นพ่อมีกล้องและหวงเพราะราคาแพงและพ่อขี้เกียจล้างฟิล์ม ซื้อรถบังคับเพราะสมัยก่อนแพงมาก เดี๋ยวนี้คันละไม่กี่ร้อยผมซื้อมอเตอร์ไซค์เพราะหลงไหลในสายลม เสียงท่อและความมีิอิสระ ผมซื้อinline skate เพราะตอนเ็ด็กเล่นแต่ของพี่และไ่ม่พอดีเท้า และอะไรอีกเยอะแยะ

แต่บางอย่างก็ไม่สามารถซื้อด้วยเงินได้ อาจจะเนื่องด้วยเค้าไม่มีขาย หรือว่าเลิกผลิตไปแล้ว หรือว่าอะไรก็ตามที่ไม่สามารถซื้อได้

itemล่าสุดที่ผมตามความฝันวัยเด็ก ทำให้ผมได้รับความสุขมากที่สุดเมื่อเทียบกับความฝันอื่นๆ เหมือนกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็ก อยู่ในห้วงเวลานั้นที่เราไม่สามารถทำได้ จนผมแทบไม่อยากจะเชื่อว่าผมได้รับมาจริงๆ
แทบอยากกราบตีนเจ้าของที่ยังเก็บรักษาไว้ให้ผม !!

Wednesday, April 28, 2010

เมื่อเด็กน้อยอยากได้ธงชาติ

ในกระแสความวุ่นวายของประเทศชาติ ณ ขณะนี้ สีต่างๆมากมายผุดขึ้นในประเทศของเรา จนสีล่าสุดคือหลากสี แม้จะมีคู่แข่งใหม่ว่าไม่มีสี แต่อันนี้เข้าใจยากเพราะง่าไม่รู้จะแบ่งแยกยังไง สงสัยว่าจะออกใสๆ มองทะลุ โดยแต่ละกลุ่มสีมักจะนำขบวนด้วยการโบกธงชาติไทย ไตรงค์ แดง ขาว น้ำเงินเป็นธงยืนพื้นแล้วก็สีของกลุ่มตนเอง เพื่อเป็นการยืนยันความคิดว่าพวกตนนั้นกำลังทำเพื่อชาติอยู่ ซึ่งก็ยิ่งทำให้สับสนว่าชาติเดียวกันทำไมสีได้เยอะจัง

เรียกได้ว่าเป็นช่วง “งานเข้า” ของสื่อมวลชนก็ว่าได้ ที่มีข่าวการเมืองแรงๆให้ทำได้ทุกวัน เป็นโอกาสดีที่นักข่าวใหม่ๆไฟแรงจะได้แจ้งเกิด ถ้าไม่ตายจากระเบิดเสียก่อน

ด้วยการที่สื่อมวลชน โดยเฉพาะโทรทัศน์ได้ถ่ายทอดทั้งสดและไม่สดถึงการรวมตัวของมวลชนที่พร้อมกันโบกธงชาติ และธงหลากสีต่างๆ พ่อดูข่าว ลูกรอดูการ์ตูนก้ต้องดูข่าวไปด้วย ด้วยสายตาของเด็กน้อยอายุสองหนาวกว่าๆ ใสซื่อ ไม่เข้าใจถึงเล่ห์เหลี่ยมในการแสดงออกทางการเมือง ของผู้ใหญ่หลายหนาว เด็กน้อยเว้าวอนพ่อบอกว่าอยากได้ธงบ้าง เพราะเห็นเค้าโบกกันสวยงาม คิดเพียงเท่านั้น

แล้วความยากลำบากก็บังเกิดขึ้นเพราะตั้งแต่เกิดมาพ่อก็ไม่เคยซื้อธงชาติ รอแต่เค้ามาแจกเท่านั้น แถมช่วงนี้ไม่รู้ว่าถูกเหมาจากพวกเดินขบวนหมดหรือไม่ กว่าจะหาซื้อได้ต้องไปหาจากธงเหลือๆจากเทศกาลวันพ่อ วันแม่ จากร้านเล็กๆที่คนอื่นไม่ได้มาเหมา

เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ความรู้เจ้ายังด้อยเร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่เจ้าจะได้เรียนวิชา ทีหลังอย่าบอกว่าพ่อเป็นเสื้อแดง
(แค่พ่อทิ้งเสื้อกล้ามออกกำลังกายไว้หลังรถ “นี่หนู เสื้อตัวนี้มันใส่ได้สองด้านนะ อีกด้านมันสีขาวจ๊ะ”)

Sunday, April 25, 2010

Five oranges for 3 kids


My parent has 3 kids, 1 big girl and 1 big boy and 1 smart boy (me). When I was young, we lived together in very warm family in lovely home. My mother like to shop at morning market where nearby home. I usually went there with here, went by walk and back by tricycle, 5 baht for hiring.


When I backed form market and look for fruit or snack, I always surprise that why number of fruit or snack is not multiply by number of kids. I think that will be problem to allocate to 3 kids. My mom usually bought 2 or 4 or 5 or any amount that not multiply with 3. My mother may not understand rule of share for brotherhood.


I memory one situation that mom bought snack for 5 pieces. Firstly I think why not 3 or 6 that easy to understand 1 or 2 pieces per person. And for sure I ever have thinking like that more than 1 time.


An hour later, I just understand thinking of above a boy. He was just a boy and selfish. In another way, why he not think to his family, 5 people that include with father and mother. They also have right to eat the snack as well.


In behalf of smart boy above, I think he is not only one a selfish kid. Because I usually ate 1 of 5 orange, sister and brother were always not left a piece to father and mother.